อัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เปลี่ยนแปลงเกมโดยสิ้นเชิงเมื่อพูดถึงการคาดการณ์ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ผงซักฟอก ระบบเหล่านี้จะพิจารณาจากตัวเลขยอดขายในอดีต และคำนวณเพื่อคาดการณ์ว่าผู้บริโภคอาจต้องการสินค้าใดในอนาคต ด้วยความแม่นยำที่ค่อนข้างสูง สิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้คือ มันไม่ได้พิจารณาแค่ตัวเลขเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงสถานการณ์ปัจจุบันในตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วย และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่แค่ทฤษฎีล้วน ๆ เท่านั้น จากการวิจัยบางส่วนของ McKinsey พบว่า องค์กรธุรกิจที่ใช้ AI ในการทำนายแนวโน้ม มักจะสามารถทำนายได้แม่นยำกว่าองค์กรที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ถึง 30% เมื่อองค์กรสามารถมองเห็นแนวโน้มเหล่านี้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยให้สามารถจัดสินค้าบนชั้นวางให้เพียงพอ โดยไม่เกิดปัญหาสินค้าคั่งสต็อกมากเกินไป หรือขาดสินค้าในช่วงเวลาที่มีความต้องการสูง
เซ็นเซอร์ IoT กำลังเปลี่ยนวิธีที่เราบริหารสินค้าคงคลัง โดยเฉพาะในการติดตามระดับสต็อกของน้ำยาล้างจานในเวลาจริง เรามักติดตั้งอุปกรณ์ขนาดเล็กเหล่านี้ไว้ตามคลังสินค้าและร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่ามีสินค้าคงเหลืออยู่เท่าไร และสามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงของความต้องการสินค้าจากลูกค้าได้แบบทันท่วงที เมื่อเรารู้จำนวนสินค้าที่มีอยู่อย่างแม่นยำในทุกช่วงเวลา เราจึงสามารถเติมสต็อกได้ก่อนที่สินค้าจะหมด และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้าที่ไม่มีความต้องการในขณะนั้น ตามข้อมูลจากกลุ่มนักวิจัยของ Gartner พบว่า บริษัทที่นำระบบอัจฉริยะเหล่านี้มาใช้ มักจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากการประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว การได้รับข้อมูลสารสนเทศที่ไหลบ่าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ยังช่วยให้ผู้จัดการสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดขึ้นเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากร รวมถึงกำหนดเวลาในการปรับกลยุทธ์ด้านราคา ตามรูปแบบการขายที่เกิดขึ้นจริง แทนที่จะคาดเดาเอาเอง
ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติช่วยลดความยุ่งยากในการจัดเก็บและเข้าถึงสารซักฟอกเมื่อต้องการได้อย่างแท้จริง เมื่อบริษัทนำหุ่นยนต์และเทคโนโลยีอัตโนมัติอื่น ๆ เข้ามาใช้ในคลังสินค้า ทุกอย่างสามารถดำเนินไปอย่างราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การหยิบสินค้าจากชั้นวางไปจนถึงการจัดส่ง ความแม่นยำเพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่พนักงานไม่ต้องทำงานหนักเท่าก่อน มีรายงานล่าสุดจากสมาคมคลังสินค้าสนับสนุนข้อมูลนี้ โดยระบุว่าคลังสินค้าที่ใช้ระบบอัตโนมัติสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ประมาณหนึ่งในสี่ โดยเฉพาะสำหรับผู้ผลิตสารซักฟอก ระบบนี้ช่วยให้สามารถดำเนินการตามคำสั่งซื้อได้รวดเร็วขึ้น และลดข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ต้นทุนแรงงานที่ลดลงยังช่วยให้ราคาสินค้าสามารถแข่งขันได้ตลอดทั้งเครือข่ายการจัดหา
การเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับสบู่ล้างจานที่ไม่มีสารพิษ ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญต่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เมื่อบริษัทต่างๆ พิจารณาวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและวัสดุที่นำกลับมารีไซเคิลได้จริง พวกเขากำลังลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้บรรจุภัณฑ์ ผู้บริโภคในปัจจุบันต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงนี้จึงมีเหตุผลทั้งในแง่ของสิ่งแวดล้อมและธุรกิจ ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยแก้ปัญหาขยะพลาสติกที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลกทุกปี จากการวิจัยบางส่วนของยูนิลีเวอร์ พบว่า แบรนด์ที่เปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้น ได้รับความภักดีจากลูกค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่องค์กรต้องนำแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินธุรกิจโดยรวม ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและรักษาฐานลูกค้าไว้ได้ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนกระบวนการทั้งหมด
การมีความชาญฉลาดมากขึ้นเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายสินค้าทั่วประเทศนั้นสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงในการลดการปล่อยก๊าซจากกิจกรรมการขนส่งของเรา เมื่อบริษัทต่างๆ เริ่มใช้เครื่องมือวางแผนเส้นทางที่ดีขึ้น โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะเห็นการประหยัดเชื้อเพลิง เพราะรถบรรทุกใช้เวลาน้อยลงในการสตาร์ตเครื่องไว้เฉยๆ หรือเลือกเส้นทางที่วกวนเกินความจำเป็น ปัจจุบันหลายองค์กรร่วมงานกับบริษัทขนส่งที่มีโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว ซึ่งช่วยให้ทุกฝ่ายสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมร่วมกัน สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (EPA) ได้ทำการวิจัยไว้จริงว่า เมื่อวางแผนเส้นทางการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ การปล่อยก๊าซที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งจะลดลงประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ โดยอาจมีความแปรปรวนขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ไม่เพียงแค่ช่วยให้รายงานด้านความยั่งยืนดูดีขึ้นเท่านั้น แต่การปรับปรุงเหล่านี้ยังนำมาซึ่งการประหยัดค่าใช้จ่ายจริงๆ อีกด้วย ผู้จัดการด้านห่วงโซ่อุปทานต่างรู้ว่าวิธีการนี้ได้ผล เพราะพวกเขาได้เห็นมันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าทั่วทั้งอเมริกาเหนือ
เมื่อบริษัทต่างๆ เริ่มนำแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในการผลิตสบู่ล้างจาน พวกเขาจะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งลดการสูญเสียทรัพยากร สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นง่ายมาก กล่าวคือผู้ผลิตจะนำวัสดุที่เหลือใช้จากโรงงานมาแปรรูปให้กลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง ซึ่งก็หมายความว่าไม่มีสิ่งใดถูกทิ้งเป็นของเสีย ตามการวิจัยของมูลนิธิเอลเลน แมคอาเธอร์ (Ellen MacArthur Foundation) ระบุว่า หากมีธุรกิจจำนวนมากเพียงพอที่เปลี่ยนมาใช้วิธีการนี้ เราอาจเห็นการเพิ่มขึ้นของเศรษฐกิจโลกถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 การดำเนินธุรกิจแบบเศรษฐกิจหมุนเวียนไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดวัตถุดิบเท่านั้น แต่ยังผลักดันให้บริษัทต่างๆ คิดนอกกรอบเวลาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ หลายบริษัทที่ผลิตสบู่ล้างจานเริ่มมีการทดลองใช้ส่วนผสมและวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่ผ่านการรีไซเคิลมาแล้ว การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีความสำคัญ เนื่องจากช่วยเปลี่ยนโฉมวิธีการทำงานของทั้งอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และนำมาซึ่งประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมทั้งต่อโลกของเราและผลประกอบการในระยะยาว
การทำงานร่วมกับบริษัทโลจิสติกส์ของบุคคลที่สาม มีความแตกต่างอย่างแท้จริงเมื่อต้องจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดไปยังประเทศต่างๆ พันธมิตรในพื้นที่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในกฎระเบียบและข้อบังคับของภูมิภาคตนเอง ซึ่งช่วยให้ธุรกิจหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่มีค่าใช้จ่ายสูง และดำเนินการต่างๆ ได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด ความร่วมมือนี้มักช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายที่สูญเปล่า พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของห่วงโซ่อุปทาน จากรายงานล่าสุดของ Deloitte พบว่า บริษัทที่ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ภายนอก มักพบปัญหาในการดำเนินงานด้านการขนส่งลดลงราวครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปกติ การปรับปรุงเช่นนี้มีความสำคัญอย่างมาก สำหรับผู้ที่ต้องการส่งมอบสินค้าถึงลูกค้าตามกำหนดเวลา ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ใดก็ตามในโลกนี้
การตั้งระบบดีๆ ที่ให้ผู้ผลิตและร้านค้าสบู่หรือสารทำความสะอาดสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ง่าย ช่วยจัดการสินค้าคงคลังได้ดีขึ้นมาก เมื่อบริษัทต่างๆ เข้าถึงตัวเลขยอดขายจากพันธมิตรค้าปลีกของตนได้ ก็สามารถปรับการผลิตให้สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการในตลาด ณ ขณะนั้น ซึ่งจะช่วยลดของเสียและป้องกันการผลิตสินค้าที่ไม่มีความต้องการตามท้องตลาด ตามการศึกษาบางส่วนที่ Accenture ดำเนินการ ระบุว่า โครงสร้างการแลกเปลี่ยนข้อมูลลักษณะนี้สามารถลดปัญหาสินค้าขาดแคลนได้ราว 15% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ในการทำให้ห่วงโซ่อุปทานทำงานได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ เมื่อผู้ผลิตทำงานร่วมกับร้านค้าปลีกอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ ทุกฝ่ายย่อมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น ระบบโดยรวมจึงตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วขึ้น และมุ่งเน้นการตอบสนองลูกค้ามากกว่าแค่การเคลื่อนไหวของสินค้า
การทำงานร่วมกับผู้จัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ในโครงการนวัตกรรมร่วมกันนั้นกลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดที่ทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพในการใช้งานจริง เมื่อผู้ผลิตทำงานร่วมกับซัพพลายเชนอย่างใกล้ชิด จะทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ลงตัวระหว่างความต้องการของผู้บริโภคกับข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล ตามข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ความร่วมมือนี้สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จของนวัตกรรมได้ประมาณ 20% แม้ว่าตัวเลขจะดูดีในทางทฤษฎี แต่หลายบริษัทยังคงประสบความยากลำบากในการแปลงตัวเลขเหล่านี้ให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในโลกแห่งความเป็นจริง ถึงกระนั้นก็ตาม วิธีการร่วมมือกันนี้ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการตอบสนองความสนใจที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคที่ต้องการทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังช่วยให้แบรนด์มีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่เทรนด์นี้ นอกจากนี้ สูตรน้ำยาทำความสะอาดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือนี้มักสามารถตอบโจทย์ตลาดเฉพาะกลุ่มได้ด้วย เช่น กลุ่มผู้บริโภคที่มีผิวบอบบาง หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำกระด้าง
การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่แตกต่างกันสำหรับการผลิตสารล้างจานที่ไม่เป็นพิษนั้นมีความสำคัญมากเมื่อต้องการขายสินค้าในตลาดโลก เพราะแต่ละประเทศมีกฎเกณฑ์ของตนเอง ดังนั้นการรู้จักมาตรฐานท้องถิ่นเหล่านี้จึงมีความสำคัญอย่างมากหากบริษัทต่างๆ ต้องการรักษากฎเกณฑ์ให้ถูกต้องและสามารถขายสินค้าต่อไปได้ บริษัทจำเป็นต้องมีแผนที่ดีในการจัดการกับข้อกำหนดเหล่านี้ เนื่องจากการทำผิดพลาดอาจนำไปสู่ค่าปรับ หรือแม้กระทั่งถูกกีดกันออกจากตลาดบางแห่งโดยสิ้นเชิง ตัวเลขยังยืนยันเรื่องนี้อีกด้วย โดยมีรายงานจากองค์กรต่างๆ เช่น องค์การการค้าโลก (WTO) ว่าปัญหาการปฏิบัติตามกฎหมายอาจส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูญเสียไปประมาณ 30% ในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก การติดตามมาตรฐานสากลที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พร้อมทั้งทำงานร่วมกับบุคคลที่เข้าใจบริบทของท้องถิ่นเป็นอย่างดี จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจผ่านข้อกำหนดต่างๆ ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันได้สำเร็จในตลาดโลก
การบริหารสินค้าคงคลังให้ดีมีความสำคัญอย่างมากเมื่อต้องการคงปริมาณผงซักฟอกและน้ำยาล้างจานบนชั้นวางให้เหมาะสม เมื่อกิจการติดตามว่าสินค้าใดขายดีและคาดการณ์ว่าลูกค้าต้องการอะไร ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาสินค้าหมดหรือมีสินค้าคงเหลือมากเกินไป ตามการวิจัยบางส่วนจากสถาบันการจัดการสินค้าคงคลังระบุว่า การจัดการสมดุลนี้สามารถเพิ่มอัตราความพึงพอใจของลูกค้าได้ประมาณ 20% บริษัทที่วิเคราะห์ข้อมูลยอดขายของตนเองอย่างสม่ำเสมอและปรับปรุงสินค้าคงคลังตามตัวเลขเหล่านั้นมักจะมีการควบคุมสต็อกที่ดีกว่า ซึ่งหมายความว่าร้านค้าจะมีสินค้าทั้งสองประเภทนี้พร้อมจำหน่ายอยู่เสมอ ไม่ว่าผู้ซื้อจะมองหาผงซักฟอกสำหรับซักผ้าหรือน้ำยาล้างจานในแต่ละพื้นที่ที่มีความต้องการแตกต่างกันออกไป
การสร้างแผนที่มีประสิทธิภาพเพื่อจัดการความเสี่ยง กลายเป็นสิ่งจำเป็นในการรับมือกับปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานเมื่อต้องจัดหาวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์ล้างจาน บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องค้นหาผู้จัดหาสำรอง และพิจารณาส่วนผสมทางเลือกไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าต่อเนื่องแม้มีปัญหาเกิดขึ้น การศึกษาจากสถาบันความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Institute) แสดงให้เห็นว่า บริษัทที่มีการจัดการความเสี่ยงที่ดีสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์หลังเผชิญกับความหยุดชะงัก การวิเคราะห์จุดอ่อนในห่วงโซ่อุปทานและสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับผู้จัดหา ช่วยให้ธุรกิจปกป้องตนเองจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แนวทางนี้ช่วยให้กระบวนการผลิตดำเนินไปอย่างราบรื่น และรักษาการดำเนินงานให้มีเสถียรภาพ แม้สภาวะตลาดจะเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิด
การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อติดตามแหล่งที่มาของน้ำยาล้างจานตลอดห่วงโซ่อุปทานนั้นมีประโยชน์จริงจัง ระบบดังกล่าวสร้างบันทึกที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อถูกบันทึกไว้แล้ว ซึ่งหมายความว่าบริษัทสามารถแสดงให้ลูกค้าเห็นได้อย่างชัดเจนว่าส่วนผสมมาจากที่ใด และผลิตภัณฑ์ถูกผลิตขึ้นอย่างไร แต่ข้อดีของบล็อกเชนไม่ได้มีเพียงแค่การรู้แหล่งที่มาเท่านั้น ยังช่วยสร้างความไว้วางใจเมื่อผู้บริโภคเห็นว่าแชมพูหรือผงซักฟอกที่ตนใช้ไม่ใช่ของปลอม จากการสำรวจล่าสุดพบว่ามีผู้นำธุรกิจประมาณร้อยละ 27 เชื่อว่าบล็อกเชนมีศักยภาพที่จะสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนในการติดตามผลิตภัณฑ์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน สิ่งนี้มีเหตุผลรองรับได้ดีเมื่อพิจารณาจากความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นในการผลิตสารซักล้างในปัจจุบัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับซัพพลายเออร์หลายรายจากหลายประเทศ แม้การนำบล็อกเชนมาใช้แบบเต็มรูปแบบอาจต้องใช้เวลา แต่ผู้ผลิตหลายรายก็เริ่มทดลองใช้แนวทางการประยุกต์ใช้บล็อกเชนแล้ว เพื่อให้ทั้งธุรกิจและผู้บริโภคเข้าใจมากขึ้นว่ามีสิ่งใดบ้างเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของตน
การเพิ่มการประเมินความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศเข้าไปในการวางแผนห่วงโซ่อุปทานของเรา ช่วยปกป้องอุตสาหกรรมการผลิตผงซักฟอกจากปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ เมื่อเราสร้างแผนสำรองไว้ล่วงหน้า มันจะช่วยให้รับมือกับปัญหาที่ไม่คาดคิดได้ดีโดยไม่กระทบต่อระบบการจัดส่งของเรา เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสร้างปัญหาที่ไม่คาดฝันให้กับผู้จัดหาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการสร้างระบบที่มีความยืดหยุ่นจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการดำรงอยู่ของธุรกิจ จากข้อมูลของ NOAA ธุรกิจที่เตรียมรับมือกับผลกระทบด้านสภาพภูมิอากาศได้ดี มักจะสูญเสียรายได้น้อยลงประมาณ 40% เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น การพิจารณาตัวอย่างจากโลกแห่งความเป็นจริงช่วยแสดงให้เห็นว่าการเตรียมพร้อมอย่างชาญฉลาดมีความสำคัญอย่างไร บริษัทต่างๆ จึงจำเป็นต้องคิดวางแผนล่วงหน้าและมีความยืดหยุ่น หากต้องการให้ห่วงโซ่อุปทานสามารถผ่านสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้
การปรับผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดของเราให้ตรงกับสิ่งที่ผู้คนต้องการในแต่ละพื้นที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้น มีความแตกต่างอย่างมากเมื่อเราต้องการเข้าถึงลูกค้าในแต่ละประเทศทั่วโลก ทีมงานของเราพิจารณาจากสิ่งที่ผู้ซื้อสินค้าบอกเรา รวมถึงดำเนินการวิจัยตลาดอย่างกว้างขวาง ก่อนตัดสินใจว่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่หรือวางแผนแคมเปญการตลาดอย่างไร เมื่อเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับนิสัยการใช้ชีวิตในท้องถิ่นแล้ว เราก็สามารถปรับสูตรผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ผงซักฟอกหรือสบู่ล้างจาน ให้เหมาะสมและใช้งานได้ดีขึ้นสำหรับคนในพื้นที่นั้นจริง ๆ รายงานล่าสุดจาก Nielsen ระบุว่า บริษัทที่มีการปรับแต่งสินค้าให้ตรงกับความต้องการท้องถิ่นนั้น สามารถเพิ่มระดับการมีส่วนร่วมของลูกค้าได้ราว 50% ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากหากเราต้องการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้บริโภค การปรับแต่งสินค้าไม่ใช่เพียงแค่แนวทางทางธุรกิจที่ดี แต่ยังช่วยให้แบรนด์ของเราเชื่อมโยงกับผู้คนได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ในทุก ๆ พื้นที่ที่เราดำเนินธุรกิจ